ค่าการซับเสียงของวัสดุ ( STC )

ค่าเก็บเสียงจากวัสดุต่าง ๆ: ความเข้าใจและการเลือกใช้งาน

การทำห้องเก็บเสียงที่มีประสิทธิภาพเริ่มต้นด้วยการเลือกวัสดุที่เหมาะสม ค่าเก็บเสียง (Sound Transmission Class หรือ STC) เป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญในการวัดประสิทธิภาพของวัสดุในการป้องกันเสียง วัสดุที่มีค่า STC สูงจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันเสียงได้ดีกว่า บทความนี้จะกล่าวถึงค่าเก็บเสียงของวัสดุต่าง ๆ อย่างละเอียดและวิธีการเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสม

1. ความหมายของค่า STC (Sound Transmission Class)

ค่า STC เป็นมาตรฐานที่ใช้วัดประสิทธิภาพของวัสดุในการลดการส่งผ่านเสียงจากแหล่งเสียงหนึ่งไปยังอีกแหล่งหนึ่ง ค่า STC สูงหมายถึงวัสดุนั้นมีความสามารถในการลดเสียงได้ดีขึ้น ค่านี้มีช่วงตั้งแต่ 25 ถึง 70 โดยทั่วไป:

  • ค่า STC 25-30: ลดเสียงพูดคุยได้บ้าง แต่ยังคงได้ยินเสียงชัดเจน
  • ค่า STC 35-40: ลดเสียงพูดคุยได้พอสมควร เสียงยังได้ยินบ้างแต่ไม่ชัดเจน
  • ค่า STC 45-50: ลดเสียงพูดคุยได้ดี เสียงภายนอกแทบไม่ได้ยิน
  • ค่า STC 50 ขึ้นไป: ลดเสียงได้ดีมาก เสียงภายนอกแทบไม่ได้ยิน

2. วัสดุที่ใช้ในการเก็บเสียงและค่า STC ของวัสดุต่าง ๆ

2.1 ฉนวนกันเสียง (Acoustic Insulation)

ฉนวนกันเสียงเป็นวัสดุที่นิยมใช้ในการลดเสียง วัสดุเหล่านี้มีค่า STC แตกต่างกันไปตามประเภทของวัสดุ

  • แผ่นใยแก้ว (Fiberglass Insulation): มีค่า STC ประมาณ 36-45 ขึ้นอยู่กับความหนาและความหนาแน่นของแผ่นใยแก้ว
  • แผ่นโฟมกันเสียง (Acoustic Foam): มีค่า STC ประมาณ 20-30 นิยมใช้ในการลดเสียงภายในห้อง แต่ไม่เหมาะสำหรับการป้องกันเสียงจากภายนอก
  • แผ่นฉนวนกันเสียงจากเส้นใยธรรมชาติ (Natural Fiber Insulation): มีค่า STC ประมาณ 35-45 ขึ้นอยู่กับประเภทและความหนาของวัสดุ

2.2 ผนัง

การสร้างผนังที่มีประสิทธิภาพในการเก็บเสียงสามารถทำได้หลายวิธี วัสดุที่ใช้ในการสร้างผนังและค่า STC ของผนังมีดังนี้

  • ผนังยิปซั่มบอร์ดสองชั้น (Double Layer Gypsum Board Walls): มีค่า STC ประมาณ 50-60 ขึ้นอยู่กับการติดตั้งฉนวนกันเสียงระหว่างชั้น
  • ผนังคอนกรีต (Concrete Walls): มีค่า STC ประมาณ 45-55 ขึ้นอยู่กับความหนาของคอนกรีต
  • ผนังไม้ (Wooden Walls): มีค่า STC ประมาณ 30-40 โดยปกติจะมีการติดตั้งฉนวนกันเสียงเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

2.3 พื้นและเพดาน

พื้นและเพดานเป็นส่วนสำคัญในการเก็บเสียง วัสดุที่ใช้ในการสร้างพื้นและเพดานมีค่า STC ดังนี้

  • พื้นลามิเนต (Laminate Flooring): มีค่า STC ประมาณ 50-55 ขึ้นอยู่กับการติดตั้งฉนวนกันเสียงใต้พื้น
  • พื้นพรม (Carpet Flooring): มีค่า STC ประมาณ 45-50 พรมหนาจะช่วยดูดซับเสียงได้ดีขึ้น
  • เพดานแขวน (Suspended Ceilings): มีค่า STC ประมาณ 40-50 ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้และการติดตั้งฉนวนกันเสียงด้านบน

2.4 ประตูและหน้าต่าง

ประตูและหน้าต่างเป็นส่วนที่เสียงสามารถผ่านเข้าออกได้ง่าย วัสดุที่ใช้ในการสร้างประตูและหน้าต่างมีค่า STC ดังนี้

  • ประตูหนา (Thick Doors): มีค่า STC ประมาณ 40-50 ขึ้นอยู่กับวัสดุและการซีลประตู
  • หน้าต่างสองชั้น (Double Glazed Windows): มีค่า STC ประมาณ 35-45 ขึ้นอยู่กับความหนาของกระจกและการติดตั้ง

3. วิธีการเลือกใช้วัสดุเก็บเสียง

การเลือกใช้วัสดุเก็บเสียงควรพิจารณาจากความต้องการในการลดเสียงและงบประมาณ วัสดุที่มีค่า STC สูงมักมีราคาสูง แต่มีประสิทธิภาพในการลดเสียงที่ดี

  • การประเมินพื้นที่: พิจารณาว่าพื้นที่ไหนต้องการลดเสียงมากที่สุด เช่น ผนังที่ติดกับถนนหรือห้องข้างเคียง
  • การเลือกวัสดุ: เลือกวัสดุที่มีค่า STC เหมาะสมกับความต้องการ ตัวอย่างเช่น การใช้ผนังยิปซั่มบอร์ดสองชั้นร่วมกับฉนวนกันเสียงจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการลดเสียง
  • การติดตั้ง: การติดตั้งวัสดุเก็บเสียงควรทำอย่างถูกวิธี การใช้ซีลกันเสียงที่ขอบประตูและหน้าต่างจะช่วยลดการรั่วไหลของเสียงได้ดี

4. ตัวอย่างการใช้งานวัสดุเก็บเสียง

สตูดิโอบันทึกเสียง

  • ผนัง: ใช้ผนังยิปซั่มบอร์ดสองชั้นร่วมกับฉนวนกันเสียง
  • พื้น: ติดตั้งพื้นลอยที่มีฉนวนกันเสียงใต้พื้น
  • เพดาน: ใช้เพดานแขวนที่มีฉนวนกันเสียงด้านบน
  • ประตูและหน้าต่าง: ใช้ประตูหนาที่มีซีลกันเสียงและหน้าต่างสองชั้น

ห้องประชุมในสำนักงาน

  • ผนัง: ใช้ผนังคอนกรีตหรือผนังยิปซั่มบอร์ดสองชั้นร่วมกับฉนวนกันเสียง
  • พื้น: ปูพรมหนาเพื่อช่วยดูดซับเสียง
  • ประตู: ใช้ประตูหนาที่มีซีลกันเสียง

สรุป

การเลือกใช้วัสดุเก็บเสียงที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างห้องที่มีคุณภาพเสียงดี ค่า STC เป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินประสิทธิภาพของวัสดุในการลดเสียง การใช้ฉนวนกันเสียง ผนังสองชั้น พื้นลอย และเพดานแขวน รวมถึงการติดตั้งประตูและหน้าต่างที่มีคุณสมบัติในการเก็บเสียง จะช่วยให้ห้องของคุณมีประสิทธิภาพในการลดเสียงรบกวนและสร้างสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบ


 

แสดงค่าการดูดซับเสียงที่ดี

Sound Transmission Class(STC)

ค่าSTC คุณภาพ      ลักษณะ
50-60 ดีมากที่สุด ได้ยินเสียงที่แผ่วเบามาก
40-50 ดีมาก ได้ยินเสียงพูดดังแผ่วเบา
35-40 ดี ได้ยินเสียงพูดดัง แ​​ต่แทบจะไม่เข้าใจ
30-35 เกีือบดี เสียงพูดดังเข้าใจค่อนข้างดี
25-30 แย่ เสียงพูดปกติเข้าใจได้ง่ายและชัดเจน
20-25 แย่มาก ไดยินอย่างชัดเจน

 

สื่อกลางนำเสียง  ความเร็วในการเดินทางของเสียง(เมตร/นาที)
กระจก  5300
เหล็ก  5200
ไม้  4200
คอนกรึด  3700
อากาศ  343
ทราย  200
ยาง(อ่อน)  50

 

ค่า STC ของวัสดุ: ความสำคัญและการนำไปใช้

การควบคุมเสียงในอาคารและสิ่งก่อสร้างเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างสภาพแวดล้อมที่น่าอยู่และมีความเป็นส่วนตัว ค่า STC (Sound Transmission Class) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดสำคัญที่ใช้ในการประเมินความสามารถของวัสดุในการป้องกันเสียงจากการผ่านทะลุจากด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่ง ในบทความนี้ เราจะสำรวจเกี่ยวกับค่า STC ของวัสดุประเภทต่าง ๆ ความสำคัญ และวิธีการนำไปใช้ในงานก่อสร้าง

ค่า STC คืออะไร?

ค่า STC เป็นตัวชี้วัดที่ใช้ในการวัดความสามารถของวัสดุหรือโครงสร้างในการป้องกันเสียง ค่า STC สูงหมายถึงวัสดุหรือโครงสร้างนั้นมีความสามารถในการป้องกันเสียงสูง ยิ่งค่า STC สูงเท่าใด การส่งผ่านเสียงจากด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่งจะลดลง

การทดสอบค่า STC จะใช้การวัดเสียงในช่วงความถี่ต่าง ๆ โดยปกติจะอยู่ในช่วง 125 Hz ถึง 4000 Hz ซึ่งเป็นช่วงความถี่ที่มนุษย์สามารถได้ยินได้มากที่สุด การวัดค่า STC จะให้คะแนนที่สะท้อนถึงความสามารถในการลดการส่งผ่านเสียงในช่วงความถี่ต่าง ๆ นี้

ค่า STC ของวัสดุต่าง ๆ

วัสดุแต่ละประเภทมีค่า STC ที่แตกต่างกันไปตามความสามารถในการป้องกันเสียง นี่คือค่าประมาณของค่า STC สำหรับวัสดุบางประเภท:

  1. ผนังคอนกรีต (Concrete Wall)

    • คอนกรีตหนา 6 นิ้ว: ค่า STC ประมาณ 50-55
    • คอนกรีตหนา 8 นิ้ว: ค่า STC ประมาณ 55-60
  2. ผนังยิปซัม (Gypsum Wall)

    • ผนังยิปซัมหนา 1 ชั้น: ค่า STC ประมาณ 30-35
    • ผนังยิปซัมหนา 2 ชั้น: ค่า STC ประมาณ 40-45
  3. ผนังเบา (Lightweight Wall)

    • ผนังเบาหนาประมาณ 3-4 นิ้ว: ค่า STC ประมาณ 35-40
  4. กระจก (Glass)

    • กระจกหนา 1/4 นิ้ว: ค่า STC ประมาณ 27-28
    • กระจกหนา 1/2 นิ้ว: ค่า STC ประมาณ 33-35
  5. ประตูไม้ (Wood Door)

    • ประตูไม้หนา 1 3/4 นิ้ว: ค่า STC ประมาณ 30-35
  6. พรม (Carpet)

    • พรมหนาประมาณ 1/2 นิ้ว: ค่า STC ประมาณ 20-25

ความสำคัญของค่า STC ในการออกแบบอาคาร

ค่า STC มีความสำคัญอย่างยิ่งในการออกแบบอาคารและสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวและลดเสียงรบกวน เช่น ห้องประชุม ห้องทำงาน ห้องนอน และห้องสตูดิโอเสียง นี่คือประโยชน์บางประการของการใช้วัสดุที่มีค่า STC สูง:

  1. เพิ่มความเป็นส่วนตัว ในพื้นที่ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว เช่น ห้องประชุมหรือห้องนอน การใช้วัสดุที่มีค่า STC สูงจะช่วยลดการส่งผ่านเสียงจากภายนอก ทำให้เสียงรบกวนจากห้องข้างเคียงหรือจากภายนอกลดลง

  2. ลดเสียงรบกวน การลดเสียงรบกวนเป็นสิ่งสำคัญในสถานที่ทำงานหรือห้องเรียน การใช้วัสดุที่มีค่า STC สูงจะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานหรือการเรียนรู้

  3. เพิ่มคุณภาพชีวิต ในบ้านหรือคอนโดมิเนียม การใช้วัสดุที่มีค่า STC สูงจะช่วยลดเสียงรบกวนจากเพื่อนบ้าน ทำให้การพักผ่อนและการใช้ชีวิตมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น

วิธีการเพิ่มค่า STC ในการก่อสร้าง

มีหลายวิธีที่สามารถใช้เพื่อเพิ่มค่า STC ของผนังหรือโครงสร้างอื่น ๆ ในการก่อสร้าง นี่คือบางวิธีที่สามารถนำไปใช้ได้:

  1. การเพิ่มชั้นวัสดุ การเพิ่มชั้นวัสดุ เช่น การใช้ผนังยิปซัมหนา 2 ชั้น หรือการเพิ่มชั้นวัสดุกันเสียง จะช่วยเพิ่มค่า STC ของโครงสร้าง

  2. การใช้วัสดุฉนวนเสียง การใช้วัสดุฉนวนเสียง เช่น โฟมฉนวนหรือใยแก้ว จะช่วยลดการส่งผ่านเสียงและเพิ่มค่า STC ของผนังหรือโครงสร้าง

  3. การติดตั้งอย่างถูกต้อง การติดตั้งวัสดุอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะในจุดที่อาจมีช่องว่างหรือรอยต่อ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันเสียง

  4. การใช้ประตูและหน้าต่างที่มีคุณภาพสูง การเลือกใช้ประตูและหน้าต่างที่มีค่า STC สูงจะช่วยลดการส่งผ่านเสียงจากภายนอกเข้าสู่ภายในอาคาร

สรุป

ค่า STC เป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินความสามารถของวัสดุหรือโครงสร้างในการป้องกันเสียง การเลือกใช้วัสดุที่มีค่า STC สูงจะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบและมีความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในบ้าน ที่ทำงาน หรือสถานที่สาธารณะ การเข้าใจและนำค่า STC มาใช้ในการออกแบบและก่อสร้างจะช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตและประสิทธิภาพในการทำงานหรือการเรียนรู้ของผู้คนในสถานที่นั้น ๆ

Knowledge Audio ความรู้เรื่องเสียง